เครื่องพ่นยากลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจ
แต่คุณควรเลือกสิ่งที่ถูกต้องอย่างไร?

การเลือกเครื่องพ่นยาขึ้นอยู่กับความต้องการในการรักษาของผู้ป่วย โดยมี 3 ประเภทหลักๆ คือ

1. เครื่องพ่นยาอัลตราโซนิก
ทำให้เกิดหมอกขนาดใหญ่แต่อาจกระจายตัวยาได้ไม่ละเอียดเพียงพอ ทำให้เหมาะสมกับสภาวะทางเดินหายใจส่วนบน และไม่เหมาะกับทารกมากนัก

2. เครื่องพ่นยาแบบตาข่าย
ผลิตอนุภาคละอองละเอียด เหมาะสำหรับการสะสมในทางเดินหายใจส่วนล่าง ทำให้เหมาะสำหรับทารกที่มีทางเดินหายใจแคบ พกพาสะดวก กะทัดรัด และทำงานเงียบ แต่ต้องใช้แบตเตอรี่ซึ่งอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยๆ แต่มักจะเกิดการอุดตันได้ง่ายทำให้อายุการใช้งานสั้นลง

3. เครื่องพ่นยาแบบคอมเพรสเซอร์
ที่พบมากที่สุดและใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยจะผลิตอนุภาคหมอกระดับปานกลางที่สะสมในระบบทางเดินหายใจส่วนล่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เหมาะสำหรับยาหลายประเภท คุ้มค่า ทนทาน และเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการการบำบัดด้วยการพ่นยาในระยะยาว
ข้อเสียคือเสียงดังกว่าเครื่องพ่นยาแบบตาข่ายเล็กน้อยและต้องใช้แหล่งพลังงานภายนอก ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในบ้านมากกว่า

เมื่อกำหนดประเภทแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาคือขนาดของอนุภาคที่ถูกพ่นละออง

อนุภาคพ่นละอองที่มีขนาดต่างกันเหมาะสำหรับโรคประเภทต่างๆ ที่ออกฤทธิ์ในทางเดินหายใจต่างกัน โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 4 ช่วง คือ

- 10-15μm: อนุภาคของยาส่วนใหญ่จะยังคงอยู่ในช่องปากและถูกกลืนเข้าสู่ร่างกายในที่สุด
- 5-10μm: มีประสิทธิภาพเบื้องต้นในทางเดินหายใจส่วนบน เหมาะสำหรับโรคที่เกี่ยวข้องกับลำคอ
- 1-5μm: สามารถเข้าถึงทางเดินหายใจส่วนล่าง เหมาะกว่าสำหรับการบำบัดโรคหอบหืด ไอ และโรคปอด
- <0.5μm: แม้ว่าอนุภาคของยาจะสามารถเข้าถึงทางเดินหายใจส่วนล่างได้ แต่ 90% จะถูกหายใจออกทางทางเดินหายใจ

ดังนั้น ยิ่งอนุภาคที่พ่นละอองละเอียดมากเท่าใด อัตราการสะสมของยาในปอดก็จะยิ่งสูงขึ้น นำไปสู่ผลลัพธ์การรักษาที่ดีขึ้น โดยมีช่วงที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 2-5μm

นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณา เช่น อัตราการพ่นยา ระดับเสียง ยาตกค้าง และอื่นๆ เมื่อเลือกเครื่องพ่นยา

ดังนั้น เมื่อเลือกเครื่องพ่นยาขยายหลอดลม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและสร้างความสมดุลให้กับปัจจัยเหล่านี้ เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องพ่นยาที่เลือกจะสามารถตอบสนองความต้องการในการรักษาของผู้ป่วยได้ดีที่สุด และให้การสนับสนุนการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ